“5 ปี หลังจากที่คิตตี้จังเกิดขึ้นมา พวกลูกค้าก็เริ่มออกอาการเบื่อเสียแล้ว ตอนนั้นไม่มีดีไซน์เนอร์คนไหนอยากจะมารับช่วงต่อนักหรอก” ยูโกะ ยามากูจิ ผู้รับผิดชอบการออกแบบคิตตี้จังคนปัจจุบันเล่าถึงอดีต
ยามากูจิ เป็นดีไซน์เนอร์คนที่สามที่เข้ามาทำหน้าที่ต่อชีวิตให้กับคิตตี้จัง ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ในยุคแรกที่เธอเข้ามาสานต่องาน ยามากูจิก็เริ่มใส่ชีวิตให้กับคิตตี้จังทันที
ในสมัยแรกเริ่มเรามักจะเห็นคิตตี้จังอยู่ในท่านั่งหันหน้ามาทางผู้ชมตลอดเวลา ยังไม่ค่อยมีแอ๊คชั่นต่างๆ มากมายนัก แต่ยามากูจิเข้ามาจัดท่าจัดทางให้เธอได้ออกลีลาท่าทางมากขึ้น ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าการแต่งกายให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้แฟนๆ เริ่มมองเห็นว่าเธอมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
“ตอนมารับหน้าที่นี้ใหม่ๆ ฉันก็ไม่ค่อยชอบหน้าเธอเท่าไหร่หรอกนะ แต่เมื่อตัดสินใจมารับงานนี้แล้ว ฉันก็พยายามจะกำจัดภาพลักษณ์เดิมๆ ของเธอเพื่อให้เธอเป็นคนใหม่”
นอกจากจะจับคิตตี้จังให้ขยับแข้งขามากขึ้นแล้ว ยามากูจิก็ทดลองเปลี่ยนแปลงอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งก็มีทั้งเสียงตอบรับในทางบวกและเสียงที่ไม่เห็นด้วย อย่างเช่นเธอทดลองลบเส้นขอบสีดำออกไป (outline) ทำให้คิตตี้จังดูอ่อนโยนมากขึ้น
ไม่ใช่มีเพียงยามากูจิคนเดียวเท่านั้นที่ออกไอเดียต่างๆ บรรดาแฟนๆ ของคิตตี้จังก็มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน แฟนๆ ต่างเสนอไอเดียเข้ามากมาย ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าผู้คนเริ่มหันมาสนใจคิตตี้จังมากขึ้น และยอมรับเจ้าเหมียวตัวนี้มากขึ้นด้วย
ยามากูจิ เป็นดีไซน์เนอร์คนที่สามที่เข้ามาทำหน้าที่ต่อชีวิตให้กับคิตตี้จัง ตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ในยุคแรกที่เธอเข้ามาสานต่องาน ยามากูจิก็เริ่มใส่ชีวิตให้กับคิตตี้จังทันที
ในสมัยแรกเริ่มเรามักจะเห็นคิตตี้จังอยู่ในท่านั่งหันหน้ามาทางผู้ชมตลอดเวลา ยังไม่ค่อยมีแอ๊คชั่นต่างๆ มากมายนัก แต่ยามากูจิเข้ามาจัดท่าจัดทางให้เธอได้ออกลีลาท่าทางมากขึ้น ปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าการแต่งกายให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้แฟนๆ เริ่มมองเห็นว่าเธอมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
“ตอนมารับหน้าที่นี้ใหม่ๆ ฉันก็ไม่ค่อยชอบหน้าเธอเท่าไหร่หรอกนะ แต่เมื่อตัดสินใจมารับงานนี้แล้ว ฉันก็พยายามจะกำจัดภาพลักษณ์เดิมๆ ของเธอเพื่อให้เธอเป็นคนใหม่”
นอกจากจะจับคิตตี้จังให้ขยับแข้งขามากขึ้นแล้ว ยามากูจิก็ทดลองเปลี่ยนแปลงอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งก็มีทั้งเสียงตอบรับในทางบวกและเสียงที่ไม่เห็นด้วย อย่างเช่นเธอทดลองลบเส้นขอบสีดำออกไป (outline) ทำให้คิตตี้จังดูอ่อนโยนมากขึ้น
ไม่ใช่มีเพียงยามากูจิคนเดียวเท่านั้นที่ออกไอเดียต่างๆ บรรดาแฟนๆ ของคิตตี้จังก็มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน แฟนๆ ต่างเสนอไอเดียเข้ามากมาย ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าผู้คนเริ่มหันมาสนใจคิตตี้จังมากขึ้น และยอมรับเจ้าเหมียวตัวนี้มากขึ้นด้วย